รัฐบาลทหารเมียนมา ยังคงต้องรับมือกับการระบาดหนักของโควิด-19 หลังจากมียอดผู้เสียชีวิตทำสถิติสูงสุดเมื่อวานนี้ ส่งผลให้กระทรวงสาธารณสุขประกาศเป้าหมายที่จะฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ให้แก่ประชากรให้ได้ถึงครึ่งหนึ่งของประชากรทั้งหมดภายในปีนี้

โดยรัฐบาลเมียนมา ยังคงเร่งรับมือกับการติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้น ท่ามกลางความไม่สงบจากการประท้วงรัฐบาลต่อเนื่องหลังการรัฐประหารยึดอำนาจนางซูจี ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยโกลบอล นิว ไลท์ สื่อของรัฐเมียนมาระบุว่า ขณะนี้มีประชากรเพียง 1.6 ล้านคนที่ได้รับวัคซีนแล้ว จากจำนวนประชากรทั้งหมด 54 ล้านคน แต่ยืนยันว่าภาครัฐยังคงกำลังนำเข้าวัคซีนเพื่อให้มั่นใจว่าจะมีวัคซีนเพียงพอกับประชากรทั้งหมด โดยวัคซีนต้านโควิด-19 จากจีนอีก 750,000 โดส จะมาถึงในวันพฤหัสบดีนี้ และจะมีเข้ามาเพิ่มอีกในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

ด้านยูเอ็น ระบุในรายงานเมื่อวันจันทร์ว่า กำลังเร่งหาทางช่วยให้เมียนมารับมือกับการระบาดของโควิด-19 โดยจะมีวัคซีนจากโครงการโคแวกซ์ส่งให้เมียนมาในปีนี้ คิดเป็นจำนวน 20 เปอร์เซ็นต์ของประชากร

ทั้งนี้ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาทางการเมียนมารายงานว่ามีผู้เสียชีวิต 281 ศพ และติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 5,189 ราย แต่หน่วยงานสาธารณสุขและฝ่ายประกอบพิธีศพ ระบุว่าตัวเลขที่แท้จริงน่าจะสูงกว่านี้ เนื่องจากมีศพล้นจนประกอบพิธีไม่ทัน

ขณะเดียวกันการระบาดของเชื้อโควิด-19 ในเมียนมา ก็ส่งผลกระทบกับจีน โดยเฉพาะบริเวณมณฑลยูนนาน ที่มีพรมแดนติดกับเมียนมา ซึ่งมีชาวจีนที่ข้ามกลับมาจากเมียนมาติดเชื้อจำนวนมาก.