ดูหนัง Mystic Pop-up Bar (มนต์มายา ณ ร้านลับแล) เจ้าของร้านอาหารข้างทางกับพนักงานหนุ่มสุดซื่อที่มีความสามารถเข้าไปในความฝันของเหล่าลูกค้า เพื่อช่วยแก้ไขปมปัญหาต่างๆ ในจิตใจของพวกเขา

ซีรีส์เกาหลี Original Netflix เรื่องราวของบาร์ลับแลที่ช่วยเหลือผู้คนที่มีปัญหาในใจโดยการเข้าไปในความฝัน สร้างจากการ์ตูนในเว็บตูนเกาหลีที่ชื่อ Ssanggap Pocha (ชื่อเกาหลี “쌍갑포차”) ดูผ่าน Netflix หลังสามทุ่มทุกวัน พุทธ-พฤหัส ความยาวของซีรีส์ตอนละชั่วโมง 12 ตอนจบ (จบ 25 มิถุนายน 2020)

เรื่องราวตอนแรกเริ่มขึ้นแบบย้อนยุคสมัยโบราณ เล่าย้อนไปถึงที่มาของนางเอก “วอลจู” ในสมัยเด็กที่มีแม่เป็นคนทรง ทำให้ได้รับพลังการเข้าไปในฝันของผู้อื่นติดตัวมา ซึ่งเธอก็ใช้ช่วยเหลือผู้คนตกทุกข์ได้ยากจนชื่อเสียงเลื่องลือไปถึงในวัง ที่องค์รัชทายาทนอนหลับไม่ตื่น เธอจึงถูกตามตัวไปรักษา แต่กลับพลาดพลั้งบางอย่างไปจนทำให้บ้านของเธอถูกเผา แม่ถูกสังหารในขณะที่ส่งให้เธอหนีไป ด้วยความคับแค้นใจเธอจึงผูกคอตายใต้ต้นไม้ศักสิทธิ์ แต่กลายเป็นว่าเบื้องบนไม่ให้เธอตายสมใจ แต่ให้มาอยู่ในโลกมนุษย์ชดใช้ความผิดที่ไปผูกคอตายที่นั่นด้วยการให้ช่วยผู้คนที่ทุกข์ใจ 1 แสนคน ภายในเวลา 500 ปีให้ได้ และเรื่องก็เดินหน้ามาถึงปัจจุบันที่เธอเปิดธุรกิจบาร์เหล้าข้างทางแบบที่ผลุบๆ โผล่ๆ ให้คนเห็นบ้าง ไม่เห็นบ้าง (ที่ตรงกับชื่อเรื่อง ป๊อปอัพบาร์) โดยเหลืออีกแค่ 10 คนก็จะเสร็จสิ้นภารกิจนี้แล้ว แต่ว่างานกลับยากขึ้น มนุษย์สมัยนี้เปิดปากเล่าความทุกข์ในใจได้ยาก จนเหลือเวลาอีกแค่เดือนเดียวเท่านั้น ไม่งั้นเธอก็ถูกตัดสินให้ตกนรกในทันที แต่แล้วเธอกลับได้พบชายหนุ่มที่ชื่อ “ฮันกังแบ” ผู้มีความสามารถพิเศษเปิดใจผู้คนให้ยอมเล่าเรื่องราวทุกข์ใจได้ด้วยการสัมผัสตัว ซึ่งความสามารถที่ติดตัวมาตั้งแต่เด็กนี้กลับเป็นเหมือนคำสาปที่ทำให้เขาถูกตัวใครไม่ได้เลย กลายเป็นต้องได้ล่วงรู้ความในใจของอีกฝ่ายทั้งหมด ซึ่งก็มักจะไม่ใช่เรื่องดีซะด้วย

จุดขายสุดของเรื่องคือความตลกแบบไม่บันยะบันยังของตัวละครในเรื่อง แบบมีจังหวะนี่เล่นกันทุกนาที เอากันทุกฉาก เชื่อว่าเผลอๆ นักแสดงใส่มาเองด้วย อย่างบทวอลจูเจ้าของร้านนี่แหละตัวดี เจ๊แกเล่นใหญ่ใส่ทุกท่า แม้แต่แค่การเดินก็ยังเอาฮาได้ พวกนี้คืออินเนอร์ของนักแสดงที่บทไม่ได้ลงไว้ แต่เจ๊ขอจัดให้เองแน่นอน แถมบทยังเอื้อให้กับการเล่นตลกได้สารพัด ด้วยความหลากหลายของเคสในแต่ละตอนที่ต่างกัน ก็ทำให้เรื่องมีความแปลกใหม่ใส่เข้ามาให้ฮาๆ ได้ไม่ซ้ำกันเลย อย่างตอน 4 ที่มีฉากไปที่เขตราชการโลกวิญญาณ ก็มีมุกจิกกัดเรื่องระบบราชการแบบใช้คอมหมดแล้ว แถมคนที่มาปฏิวัติระบบทะเบียนราชก็เป็น “สตีฟจ๊อบ” ชัดๆ เรียกว่าฮากันแน่นอนกับฉากนี้ ตัวเรื่องแอบจิกกัดอะไรครอบจักรวาลมาก ถ้าใครตามทันพวกนี้ยิ่งฮาทวีคูณขึ้นไปอีก

ความรักในเรื่องนี้ไม่ได้หวานเลี่ยน แต่ออกแนวโรแมนติกชวนขำไปกับความเปิ่นๆ ของพระเอกกับคังยอริน ที่มีความลับบางอย่างติดตัวเธออยู่เช่นกัน เรื่องยังแทรกความรู้สึกโดดเดี่ยวของทั้งคู่ อารมณ์คนโสดเหงามาตลอดชีวิตมาเจอกัน ซึ่งดูแล้วน่ารักมีลุ้นทุกตอนแบบกำลังดี ดูไปยิ้มไปพร้อมกับแทรกแง่มุมความรักในแบบที่แตกต่างจากคนปกติทั่วไปอีกด้วย อย่างฉากในภาพด้านบนที่ทั้งคู่ดูหนังตลกแต่กลับเศร้าสะเทือนใจเพราะตัวเอกในเรื่องแตะตัวกันไม่ได้เพราะเป็นเกาต์ ซึ่งหนังก็ตั้งใจทำให้คนดูตลก แต่เรากลับได้เห็นแง่มุมสุดรันทดผ่านความคิดของพระเอกกับคังยอรินไปพร้อมกัน

ตัวนักแสดงในเรื่องเอง “วอลจู” ที่แสดงโดย “ฮวังจองอึม” (Hwang Jung Eum) สวยทรงเสน่ห์มากจริงๆ กับชุดด้วยชุดสวยๆ หลากหลายแบบ (อารมณ์คล้าย Hotel Del Luna ที่ IU เล่นเลย) มีสถานะกึ่งคนเป็นคนตายแบบได้รับอภิสิทธิ์ลงมาในโลกตามหน้าที่จากโลกวิญญาณ บวกกับนิสัยห้าวๆ หัวร้อนง่ายที่เธอแสดงออกมาได้ตลกดี แต่บทในตอนเด็กกับตอนโตมีนิสัยต่างกันมาก ซีรีส์จะค่อยๆ เล่าว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วงเวลานั้น

ส่วนตัวพระเอกของเรื่อง “ฮันกังแบ” ที่แสดงโดย “ยุกซองแจ” (Yook Sung Jae) เป็นพระเอกเกาหลีที่ไม่จำเป็นต้องหล่อ แต่กลับดูซื่อๆ บ๊องๆ มีเสน่ห์เข้ากับบทได้เป็นอย่างดี (แอบเหมือนนักแสดงซีรีส์ญี่ปุ่นด้วยดูไม่เหมือนเกาหลีเลย) ซึ่งเขาต้องเล่นเข้าคู่กับ “ฮวังจองอึม” แทบตลอดเวลาเพราะตัวเรื่องทั้งคู่ต้องพึ่งพาสกิลพิเศษของกันและกัน แต่เธอไม่ใช่นางเอกของฮันกังแบหรอกนะ ในตอน 3 จะเปิดตัวละครใหม่ “คังยอริน” ที่เป็นนางเอกตัวจริงคู่กับเขา ที่มีความสามารถต้านทานพลังเปิดใจของพระเอกได้ และบทก็เล่นกับปมด้อยที่พระเอกไม่เคยมีสัมพันธ์ทางกายกับสาวๆ ที่ไหนเลยสักนิด ในขณะที่คังยอรินเองก็ไม่เคยมีแฟนมาก่อน และก็เป็นสาวแกร่งรักความยุติธรรม บุคลิกมีเสน่ห์มากๆ ต่างคนต่างเห็นข้อดีของกันทีละนิดๆ ออกแนวโรแมนติกเบาๆ น่าติดตาม เรื่องจึงทั้งฮาและน่ารักไปพร้อมกัน

ตัวเรื่องจบลงที่ความตายของหัวหน้ากวีกับการตกลงไปในจิตใต้สำนึกที่ไม่มีที่สิ้นสุดในฝันของวอลจู แต่ว่าก็ถูกยมโลกกู้ร่างกลับมาได้พร้อมกับเพื่อนขององค์รัชทายาทที่เป็นผีร้ายจากในอดีตที่ฆ่าแม่ของวอลจู รวมถึงหัวหน้ากวีเองที่ตายไปในโลกมนุษย์ วิญญาณก็กลับมายมโลก และได้รับหน้าที่ให้มาช่วยวอลจูอีกครั้ง หลังจากที่วอลจูปฏิบัติภารกิจครบแสนคน (เคสสุดท้ายคือช่วยกังเบจากโลกในฝัน และตัดพลังการเปิดใจออกไปพร้อมกัน) เธอเลือกไม่ไปเกิดใหม่และขอมาเปิดบาร์ลับแลอีกครั้ง และกังเบก็กลับมาเจอทั้งคู่ทำงานต่อไปเหมือนเดิม